กลิ่นดอก “ตีนเป็ด” หรือ “พญาสัตบรรณ”
กลิ่นดอก “ตีนเป็ด” หรือ “พญาสัตบรรณ”
 15 Oct 2019   5746

ช่วงหัวค่ำในเดือนนี้ก็เริ่มจะมีมหันตภัยกลิ่นดอก “ตีนเป็ด” หรือ “พญาสัตบรรณ” โชยมารบกวนนาสิกประสาทของคนบางกลุ่มที่แพ้ จนแทบจะเรียกกันขำๆว่าต้น “พญาสัตบรร(ลัย)” กันเลยทีเดียว 

ดังนั้นวันนี้แอดก็จะมาเล่าถึง เกร็ดความรู้ที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ ถึง วิทยาศาสตร์ของกลิ่นชวนปวดหัวของดอกตีนเป็ด นะครับ

ตีนเป็ด หรือ พญาสัตบรรณ (saptaparni) เป็นชื่อมาจากภาษาสันสกฤตที่รวมเอาคำว่า “sapta” (แปลว่า 7) และ “parni” (แปลว่า ใบไม้) เนื่องจากว่าในใบแต่ละช่อส่วนใหญ่มักจะมีใบย่อยถึง 7 ใบ (แต่โดยทั่วไปก็จะมี 5-7 ใบย่อยด้วย) และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Alstonia scholaris” นะครับ

และมีช่อดอกที่ออกเพียงปีละครั้งในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่ส่งกลิ่นหอม (?) ไปทั่วบริเวณโดยเฉพาะตอนหัวค่ำนี่ อื้อหือ!! เล่นเอาบางคนที่แพ้กลิ่นนี่ปวดประสาทหรือปวดหัวไมเกรนกันเลยทีเดียว

ด้วยความว่าดอกตีนเป็ดนั้นมีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยหลายชนิดมาก (อย่างน้อยถึง 34 ชนิด) โดยที่สารให้กลิ่นหลักนั้นจะเป็นสารประกอบ linalool (37.5%) และสารอื่นๆ เช่น cis-/ trans-linalool oxides (14.7%), α-terpineol (12.3%), 2-phenylethyl acetate (6.3%) และ terpinen-4-ol (5.3%) ที่ผสมปนเปกันเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์กลิ่นที่ออกหวานเมื่อได้กลิ่นตอนเจือจาง แต่จะเหม็นหวานเอียนชวนปวดหัวมากหากมีปริมาณที่สูงขึ้น (นึกสภาพตอนที่อยู่ในดงตีนเป็ดตอนที่ลมพัดแรงๆเข้าห้องดูสิครับ )

ความรุนแรงของกลิ่นนี้ที่เข้มข้นสูงๆ ที่มาแบบเป็นดงนั้นไม่ได้มีแต่คนไทยเราๆที่บ่นกันนะครับ แต่ทั้งแถบเอเชียใต้ เวียดนาม และเขตร้อนชุ่มชื้นทั้งหลายนั้นถึงกับกล่าวขวัญว่าเป็น “ต้นไม้แห่งกลิ่นปีศาจ” กันเลยทีเดียว 

ซึ่งสาเหตุของความปวดหัวยามที่ได้กลิ่นดอกตีนเป็ดแบบเข้มข้นนั้น เกิดจากการที่สารในกลุ่ม linalool นั้นสามารถกระตุ้นระบบประสาทในสมองให้ทำงานหนักยิ่งขึ้น และส่งผลทำให้เกิดอาการปวดหัว อีกทั้งยังกระตุ้นความอยากอาเจียรของผู้ที่แพ้กลิ่นสารจำพวกนี้ได้เป็นอย่างดี

ซึ่งคนที่แพ้กลิ่นดอกตีนเป็ดเนี่ยก็มักจะแพ้กลิ่นดอกราตรีด้วย เนื่องจากว่าเป็นสารประกอบกลุ่มเดียวกัน ที่มีโทนกลิ่นที่ชวนปวดหัวได้พอๆกัน หากได้รับความเข้มข้นสูงเป็นระยะเวลาต่อเนื่องนานๆ นอกจากนั้นอาจจะกระตุ้นให้เกิดอาการน้ำตาและน้ำมูกไหลออกมาด้วยนะครับ

แต่อาการนี้ก็ไม่ได้เป็นทุกคนนะครับ บางคนก็สามารถรับกลิ่นดอกตีนเป็ด (แบบอ่อนบาง) ได้โดยไม่มีอาการผิดปกติใดๆ พร้อมกับบอกว่า “หอมหวานเย็นๆ” ด้วยซ้ำไปนะครับ ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลกันด้วยนะครับ

- ดอกไม้พิศวง
- บางคนก็ดมหอมดี
- แต่บางคนก็ดมหม็นจนปวดหัวกันเลยทีเดียว

สุดท้ายนี้แอดก็ขอขอบคุณรูปประกอบบทความจากลิงก์นี้ด้วยนะครับ

บทความนี้มาจากเพจ: เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว

แบ่งปัน :
ข่าวอื่นๆ